สสจ.ยะลาเตือนภัย! เด็ก-เยาวชนเล่นประทัดอันตรายถึงมือขาด ตาบอดและอาจเสียชีวิตได้

462

16 มิถุนายน 2560 10:05 น. รักษาราชการแทนนายแพทย์ สสจ.ยะลาเตือนภัย! เด็กและเยาวชนเล่นประทัดอันตรายถึงมือขาด ตาบอด และอาจเสียชีวิตได้ หลังพบว่าช่วงเทศกาลถือศีลอด มีผู้บาดเจ็บจากเหตุเล่นประทัดแล้ว 18 ราย และบาดเจ็บถึงขั้นรุนแรง 6 ราย


วันนี้ (16 มิ.ย.) ที่อาคารสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยะลา นพ.ชัยวัฒน์ พัฒนาพิศาลศักดิ์ นายแพทย์เชี่ยวชาญด้านเวชกรรมป้องกัน รักษาราชการแทนนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลถือศีลอดในเดือนรอมฎอน และใกล้เทศกาลวันรายอปอซอ ร้านค้าจะนำประทัด พลุ ดอกไม้ไฟมาจำหน่ายเป็นจำนวนมาก ทำให้เด็กและเยาวชนสามารถหาซื้อสิ่งเหล่านี้ได้ง่าย และมีการเล่นประทัดเพื่อความสนุกสนาน รื่นเริง และที่น่าเป็นห่วงคือ ซื้อมาเล่นโดยขาดความระมัดระวัง และเกิดอุบัติเหตุจากประทัดมากที่สุด ทั้งบาดเจ็บ และอาจสูญเสียอวัยวะสำคัญ ซึ่งบางรายรุนแรงถึงขั้นทำให้ตาบอดหรือนิ้ว มือขาดได้ จากข้อมูลการวิเคราะห์รายงานการบาดเจ็บจากการเล่นประทัด จากโรงพยาบาลทุกแห่งใน จ.ยะลา ระหว่างวันที่ 27 พฤษภาคม ถึงวันที่ 13 มิถุนายน 2560 พบผู้บาดเจ็บ จำนวน 18 ราย เป็นเพศชาย จำนวน 15 ราย เพศหญิง จำนวน 3 ราย เป็นผู้บาดเจ็บจาก อ.เมือง ยะหา รามัน กาบัง กรงปินัง และ อ.บันนังสตา โดยเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 7 ปี จำนวน 4 ราย อายุ 7-12 ปี จำนวน 9 ราย อายุ 13-19 ปี จำนวน 4 ราย และอายุ 20 ปีขึ้นไป จำนวน 1 ราย ส่วนใหญ่บาดเจ็บที่มือ (15 ราย) ใบหน้า (2 ราย) และหูอื้อ (1 ราย) ความรุนแรงของการบาดเจ็บ พบต้องส่งรักษาต่อโรงพยาบาลยะลา จำนวน 6 ราย ต้องนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล จำนวน 2 ราย และบาดเจ็บเล็กน้อยรักษาพยาบาลแล้วกลับบ้านได้ จำนวน 15 รายนพ.ชัยวัฒน์ พัฒนาพิศาลศักดิ์ ยังกล่าวอีกว่า สำหรับมาตรการในการป้องกันการบาดเจ็บจากการเล่นประทัด โดยในกลุ่มเด็กและเยาวชนคือ ห้ามให้เด็กๆ จุดประทัด และดอกไม้ไฟเองโดยเด็ดขาด ไม่ควรให้เด็กอยู่ใกล้บริเวณที่จุดประทัด พลุ หรือดอกไม้ไฟ ผู้ปกครองและครูต้องสอนให้เด็กรู้ว่าประทัด พลุ ดอกไม้ไฟไม่ใช่ของเล่น แต่เป็นสิ่งที่อันตรายสำหรับเด็ก เช่น อาจทำให้ตาบอด นิ้วขาดกลายเป็นคนพิการ และสอนไม่ให้เด็กเก็บประทัด พลุ ดอกไม้ไฟที่จุดแล้วไม่ระเบิดมาเล่น เพราะอาจจะระเบิดโดยไม่คาดคิด ผู้ปกครองควรดูแลและให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะช่วงเทศกาล และเด็กต้องได้รับการฝึกทักษะการหนี เมื่อเผชิญสถานการณ์อันตราย “ในส่วนของผู้ใหญ่เองควรมีมาตรการป้องกันคือ หลีกเลี่ยงการเล่นประทัด พลุ ดอกไม้ไฟ เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่เด็ก ก่อนเล่นควรอ่านฉลาก วิธีใช้คำเตือน และก่อนจุดควรมองรอบข้างให้แน่ใจว่าไม่มีผู้ใดอยู่บริเวณนั้น เล่นในที่โล่ง ราบ ห่างไกลจากบ้านเรือน ใบไม้แห้ง วัตถุไวไฟ ห้ามเล่นประทัด พลุ ดอกไม้ไฟที่ซื้อจากร้านค้าไม่น่าเชื่อถือ สินค้าอยู่ในสภาพเก่า ไม่สมบูรณ์ ห้ามจุดประทัด พลุ ดอกไม้ไฟที่เสื่อมสภาพ หรือที่ถูกจุดแล้วแต่ยังไม่ระเบิด อย่าให้ใบหน้าอยู่เหนือพลุ และดอกไม้ไฟ ก่อนจุดควรเตรียมถังใส่น้ำใกล้ๆ ห้ามจุดหากไม่อยู่ในระยะที่ปลอดภัยคือ 1 เมตร หรือ 1 ช่วงแขน และห้ามประกอบหรือดัดแปลงประทัด พลุ หรือดอกไม้ไฟไว้เล่นเองเด็ดขาด” นพ.ชัยวัฒน์ กล่าว นายแพทย์เชี่ยวชาญด้านเวชกรรมป้องกัน ยังกล่าวอีกว่า สำหรับผู้ปกครองและประชาชน ควรรู้จักวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น และการสื่อสารกับหน่วยฉุกเฉินทางการแพทย์ (1669) รวมทั้งวิธีการส่งต่อเด็กในภาวะฉุกเฉินไปยังสถานพยาบาลใกล้เคียง เพื่อลดการบาดเจ็บรุนแรง ความพิการและการเสียชีวิต สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1422.

 

 

Cr.ข่าว mgr