พัทลุงจับตำรวจชายแดนใต้พกอาวุธสงคราม อ้างป้องกันตัว

2311

ฝ่ายปกครองพัทลุง ตั้งด่านจับ ตร.ชายแดนใต้ ข้อหาพกพาอาวุธสงคราม

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – วิพากษ์วิจารณ์กันสนั่นโซเชียล หลังฝ่ายปกครองเมืองพัทลุง บริเวณจุดตรวจท่ามิหรำ ตั้งด่านจับตำรวจ สภ.ยะหา จ.ยะลา ข้อหาพกพาอาวุธสงคราม เจ้าตัวเผยตำรวจใน จชต.ต้องมีอาวุธไว้เพื่อป้องกันตัว

▪วันนี้ (22 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในกลุ่มไลน์และเฟซบุ๊ก บนสื่อสังคมโซเชียลมีเดียในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองของ จ.พัทลุง ที่จับสิบตำรวจตรี ผบ.หมู่งานป้องกัน สภ.ยะหา จ.ยะลา ในข้อหามีอาวุธสงคราม ที่นายทะเบียนไม่สามารถให้มีอนุญาต โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อช่วงกลางดึกที่จุดตรวจท่ามิหรำ เขตเทศบาลเมือง จ.พัทลุง

▪ซึ่งในโลกโซเชียลต่างมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองขาดวิจารณญาณ เพราะตำรวจในจังหวัดชายแดนภาคใต้ต้องมีอาวุธเพื่อป้องกันตัว โดยยกตัวอย่าง ด.ต.สภ.สายบุรี จ.ปัตตานี ที่เพิ่งถูกโจรใต้ยิงเสียชีวิต เมื่อวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะขับรถเก๋งไปรับภรรยาที่เป็น ผอ.โรงเรียน ในเขตเทศบาลตะลุบัน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี

▪ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงเรื่องดังกล่าว ที่มีการแชร์กันอย่างล้นหลามในโซเชียล จาก พ.ต.อ.ตรีวิทย์ ศรีประภา รอง ผบก.ภ.จว.พัทลุง ซึ่งถูกในไลน์อ้างว่า เป็นนายตำรวจที่เข้าไปเจรจากับฝ่ายปกครอง เพื่อให้ปล่อยตัว ส.ต.ต.คนดังกล่าว โดยรอง ผบก.ภ.จว.พัทลุง เปิดเผยข้อเท็จจริงว่า ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ของการจับกุม ตนเองทราบข่าวหลังมีการบันทึกการจับกุม และมีการให้ประกันตัวแล้ว

▪โดยก่อนเกิดเหตุตนเองได้ออกตรวจท้องที่ และมาถึงด่านตรวจท่ามิหรำ พบว่ามีเจ้าหน้าที่ยืนอยู่จำนวนมาก จึงได้จอดรถลงไปสอบถามจากนายทหารยศ พ.ท. ซึ่งรู้จักกันจึงทราบว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.ยะหา จ.ยะลา ขับรถผ่านด่านตรวจเพื่อจะกลับไปยัง สภ.ยะหา และมีการตรวจค้นพบว่ามีการพกปืนสั้น และมีปืนเอ็ม 16 รุ่นเอ็ม 4 อยู่ในรถ จึงได้ทำการจับกุมตั้งข้อหา และต่อมาได้มีการให้ประกันตัวตามขั้นตอน ตนเพียงแต่ทราบเหตุการณ์ แต่ไม่ได้เป็นคนขอให้ฝ่ายปกครองปล่อยตัวแต่อย่างใด

▪สำหรับผู้ที่ถูกจับคือ ส.ต.ต.รณชาติ ยงกิตติเกษม อายุ 28 ปี ที่อยู่ 27/1 หมู่ 7 ต.หนองตรุด อ.เมือง จ.ตรัง ตำแหน่ง ผบ.หมู่งานป้องกัน สภ.ยะหา จ.ยะลา ซึ่งขับรถเก๋งวีออส ผ่านด่านตรวจท่ามิหรำ ซึ่งเป็นจุดตรวจของฝ่ายปกครอง และถูกเรียกให้หยุดตรวจ จากการตรวจค้นพบว่ามีปืนเอ็ม 16 รุ่นเอ็ม 4 เป็นของราชการ ทะเบียน เอ 0255218 กระสุดขนาด 5.56 จำนวน 26 นัด ซองกระสุน 1 ซอง ปืนพกสั้นยี่ห้อกล็อค ทะเบียน 573016 ขนาด 9 มม. 1 กระบอก กระสุน 15 นัด จึงได้ทำการตรวจยึดพร้อมดำเนินคดีดังกล่าวข้างต้น

▪โดย ส.ต.ต.รณชาติ กล่าวว่า ตนเองออกเวรจาก สภ.ยะหา และเดินทางกลับบ้านที่ จ.ตรัง และได้พยายามที่จะอธิบายถึงความจำเป็น ในการมีอาวุธปืนราชการไว้เพื่อป้องกันตัว เพราะพื้นที่ตั้งแต่ อ.จะนะ จ.สงขลา จนถึง อ.ยะหา จ.ยะลา เป็นพื้นที่อันตราย และมีการยิงเจ้าหน้าที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง จึงจำเป็นที่จะต้องมีอาวุธปืนประจำกายไว้ป้องกันตัวในการเดินทาง แต่เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจไม่ฟัง จึงถูกตั้งข้อหา และดำเนินคดีในที่สุด

▪โดยผู้สื่อข่าวได้รายงานด้วยว่า หลังการจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้มีการแชร์เรื่องที่เกิดขึ้น และเห็นใจเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกจับกุม ในฐานะที่เป็นตำรวจในพื้นที่อันตราย ที่จำเป็นต้องพกพาอาวุธปืนเพื่อป้องกันตัว จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ที่ทำการจับกุมเจ้าหน้าที่ด้วยกัน ได้ย้ายมาอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้บ้าง จะได้รู้ว่ามีอันตรายแค่ไหน อย่างไร โดยในไลน์ต่างๆ กล่าวว่า เรื่องอย่างนี้พูดคุยกันก็น่าจะรู้เรื่อง ไม่น่าจะต้องจับกุมดำเนินคดี เพราะไม่ได้ไปก่อเหตุอะไร แต่เป็นการพกพาปืนเดินทางเพื่อป้องกันตัวเพียงเท่านั้น

Manageronline