ออมจนถังแตก! แม่ค้าขนมครก สังขละบุรี ต่อยอดถึง รุ่นลูก “โตขึ้นจะได้ไม่ลำบาก”

115
แม่ค้าขายขนมครก ตลาดสังขละบุรี สะสมเงินเหรียญที่ได้จากการขายขนม โดยใช้เวลากว่า3ปี หยอดทีละเล็ก ละน้อย จนเต็มและล้นทะลักถังน้ำดื่ม เงินกว่า 7 หมื่นบาท เผยได้รับการปลูกฝัง การเก็บออม จากครอบครัวมาตั้งแต่เด็ก จึงนำมา ต่อยอดด้วยการสอนลูก โตขึ้นจะได้ไม่ลำบาก
ที่บ้านไม่มีเลขที่หมู่ที่ 3 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ผู้สื่อข่าวได้เดินทางมาพบกับครอบครัวนักออม ซึ่งประกอบด้วยนายสราวุธ ไทยสังขสิริพงศ์ อายุ 37 ปี น.ส.วาวา อายุ 31 ปี ภรรยาพร้อมด้วย ด.ญ.ภัทรวดี ไทยสังขศิริพงศ์ อายุ 8 ปี และ ด.ช.ณกร ไทยสังขศิริพงษ์ อายุ 6 ปี ขณะที่ทั้งหมดกำลังช่วยกันนับเงินเหรียญ ซึ่งประกอบด้วยเหรียญ 1 บาท 2 บาท 5 บาทและเหรียญ 10 บาทที่อยู่ในถังน้ำดื่มที่ช่วยกันใส่สะสมไว้ ก่อนจะเกิดเหตุการณ์ถังที่ใส่เงินแตก ขณะทำการทำความสะอาดบ้าน
โดย น.ส.วาวา เปิดเผยว่า ตนมีอาชีพขายขนมครกและขนมหวาน ส่วนสามี ขายน้ำมะพร้าว ในตลาด 5 เชื้อชาติ เทศบาลตำบลวังกะโดยทุกวันหลังจากขายของเสร็จ ก็จะนำเศษสตางค์ทั้งหมดมาใส่ไว้ในถังน้ำ โดยไม่เคยนับว่าแต่ละวันใส่จำนวนเท่าไหร่ ทั้งนี้ เป็นนิสัยที่ได้รับการปลูกฝังมาจากครอบครัวที่สอนให้ตนเองเก็บออมโดยการหยอดเงินในกระปุกออมสินตั้งแต่วัยเยาว์ ส่วนเงินทั้งหมดในถังใบนี้ ใช้เวลาสะสมมานานกว่า 3 ปี

จนมาถึงทุกวันนี้ นอกจากตนและสามีที่ช่วยกันเก็บเงินในถังแล้ว บางครั้งก็จะให้ลูกทั้ง 2 เป็นคนใส่เงินลงในถัง จนวันหนึ่งลูกๆ อยากมีกระปุกออมสินเพื่อสะสมเงินเป็นของตนเอง ตนและสามี จึงซื้อให้ลูกๆ ไว้เก็บสะสมเงินที่ได้จากค่าขนมที่ให้ไปโรงเรียน เพื่อเป็นการปลูกฝังเรื่องการเก็บออมเงินให้แก่ลูกๆ เหมือนที่ตนได้รับจากครอบครัว
ด้าน ด.ญ.ภัทรวดี ไทยสังขศิริพงศ์ เปิดเผยว่า ตนหยอดตังในกระปุกออมสินทุกวัน โดยมีความตั้งใจจะเก็บเงินจนเต็มกระปุก เพื่อเอาไปมอบให้คุณตาที่อยู่ที่บ้านในประเทศเมียนมา

ส่วนเหตุผลที่ปลูกฝังเรื่องการออมให้ลูกเนื่องจากอยากให้ลูกๆรู้จักการออมเงินและรู้จักใช้เงินให้เกิดคุณค่ามากที่สุด เพื่อจะได้ไม่ลำบากในอนาคต โดยจากการนับเงินที่สะสมไว้ในถังน้ำได้ถังหมด 70,500 บาท ซึ่งนายสราวุธ และ น.ส.วาวา ตั้งใจจะไปฝากธนาคารไว้เพื่อเป็นทุนการศึกษาให้แก่ลูกทั้ง 2 ต่อไป รวมทั้งจะเริ่มต้นเก็บเงินในถังน้ำดื่มใบใหม่อีกครั้ง!