เปิด 3 ก๊กในประชาธิปัตย์ หนุน-ไล่ ‘จุรินทร์’ เดิมพันสูง ‘โตหรือแตก’

1659

พรรคประชาธิปัตย์ กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ปั่นป่วนอีกครั้ง หลัง ส.ส.และคณะกรรมการบริหารพรรคกดดันให้มีการเปลี่ยนแปลงหัวหน้าพรรค จากการนำของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ที่ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ไม่ได้ทำให้ ความนิยมของพรรคกระเตื้องขึ้น และยังมีปญหาส.ส. และคณะกรรมการบริหารพรรคเข้าถึงยาก มีการจับตาว่า ปัญหาอันคกรุ่นนี้ จะส่งผลให้ประชาธิปัตย์ แตกอีกระลอก ไม่เพียงคณะกรรมการบริหารพรรคและส.ส.แตกเป็น 3 กลุ่ม แต่ยังมีความเคลื่อนไหวของ ส.ส.บางส่วนที่เป็นสัญญาณว่า อาจตัดสินใจออกจากประชาธิปัตย์

สัญญาณที่เกิดขึ้น เมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 11 มิ.ย. มีส.ส.และอดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ รวม 6 คน ได้แก่ น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม นางกันตวรรณ ตันเถียร กุลจรรยาวิวัฒน์ ส.ส.พังงา น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล ส.ส.นครศรีธรรมราช นายชุมพล จุลใส ส.ส.ชุมพร น.ส.แนน บุญย์ธิดา สมชัย ส.ส.อุบลราชธานี และนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ อดีต ส.ส.กทม. เดินทางมาพบนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และอดีตผู้สมัครตำแหน่งหัวหน้าพรรคปชป. ที่ห้องทำงานบนตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล

มีการคาดว่า อาจเป็นการมาพูดคุยเพื่อขอรับการสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี พร้อมกับเตรียมลู่ทางไปร่วมงานการเมืองกับพรรคพลังประชารัฐในอนาคต

ในขณะที่สถานการณ์ภายในพรรค ยังคุกรุ่น หลังส.ส.นำโดยนายอัลวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี ได้ยื่นหนังสือถึงหัวหน้าพรรคให้มีการประชุมพรรค เพื่อให้เกิดการหารือภายใน หาทางแก้ปัญหาภายในพรรค ขณะเดียวกัน ได้มีความเคลื่อนไหวของกรรมการบริหารพรรคเพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลงหัวหน้าพรรค ส่งผลให้ภายในคณะกรรมการบริหารพรรค 39 คน ได้แตกออกเป็น 3 กลุ่ม กลายเป็น 3 ก๊กในประชาธิปัตย์

คณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ที่แบ่งเป็น 3 กลุ่ม จากการสอบถามภายในพรรค พอจะแยกได้ ดังนี้
กลุ่มที่สนับสนุนนายจุรินทร์ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่มีตำแหน่งการทางเมือง ทั้งตัว นายจุรินทร์ , นายนราพัฒน์ แก้วทอง , นายไชยยศ จิรเมธากร , นายสาธิต ปิตุเตชะ , นายนิพนธ์ บุญญามณี , นายสามารถ ราชพลสิทธิ์, คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช , นายอลงกรณ์ พลบุตร, นายสรรเสริญ สมะลาภา , นาย ปริญญ์ พานิชภักดิ์ , นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน , น.ส.จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร , นายธนา ชีรวินิจ , นายราเมศ รัตนะเชวง ,น.ส.รัชดา ธนาดิเรก , น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข

กลุ่มที่ต้องการเปลี่ยนหัวหน้าพรรค ประกอบด้วย นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ , นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ , นายกนก วงษ์ตระหง่าน , นายอัศวิน วิภูศิริ , นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ , นายอันวาร์ สาและ , วิรัช ร่มเย็น , นางศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ , นายอภิชัย เตชะอุบล , น.ส.อรอนงค์ กาญจนชูศักดิ์ , นางเจิมมาศ จึงเลิศศิริ , น.ส.สุพัชรี ธรรมเพชร , นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล , นางผ่องศรี ธาราภูมิ , น.ส.พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล

และกลุ่มสุดท้าย คือ กลุ่มที่ยังไม่ตัดสินใจ ประกอบด้วย พันโทสินธพ แก้วพิจิตร , นางขนิษฐา นิภาเกษม , นางกษมา วงศ์ศิริ , นายชวลิต รัตนสุทธิกุล , นายถนอมศักดิ์ แป๊ะเส้ง , นายทวีโชค อ๊อกกังวาล , นายนิพนธ์ บุญทองซุ่น และ นายณัฐพงษกร คุ้มตะกั่ว

ปัญหาในประชาธิปัตย์ แม้จะไม่มีคนออกมาประกาศชัดเจนเหมือนกรณีของพลังประชารัฐ มีเพียงนายอัลวาร์ สาและ ที่ออกมาเคลื่อนไหว แต่สถานการณ์เป็นคลื่นใต้น้ำที่ เคลื่อนไหวรุนแรง จนนานชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ที่เป็นผู้อาวุโสสูงในพรรคต้องออกมาเตือนสติ และส่งสัญญาณให้การสนับสนุนนายจุรินทร์ ต่อไป

ปัญหาว่า นายชวน ยังคงมีมนต์ขลังสยบ ความเคลื่อนไหวได้หรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ จะเห็นว่า การแตกตัวออกไปของ กรณ์ จาติกวณิช และพีรพันธ์ สาลีรัฐวิภาค และได้เป็นตัวแปรในการเปลี่ยนแปลงภายในประชาธิปัตย์ที่จะเกิดขึ้น

เดิมพันอันสูงนี้ จะส่งผลให้ประชาธิปัตย์ กลับมามีกระแสนิยมเพิ่มขึ้น หรือถดถอยไปเป็นพรรคขนาดเล็ก เหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต

ปชป.ระส่ำหนัก! อัลวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี ต้องทำหนังสือถึงหัวหน้าพรรค