‘ความแตกแยกทำให้มุสลิมอ่อนแอ’ เริ่มต้นคุตบะห์ ของสมชาย แพจิตต์ อิหม่ามประจำมัสยิด อิหม่ามมัสยิดเนียะมะตุ้ลอิสลาม(มักสัน) เมื่อวันศุกร์ที่ 18 กันยายน 2563 เป็นครั้งที่มัสยิดได้เปิดละหมาดยุมอะห์ หลังปิดจากสถานการณ์โควิด-19 และซ่อมแซมปรับปรุงมัสยิด ด้วยการสนับสนุนของผู้มีจิตศรัทธาและกรุงเทพมหานคร ให้มัสยิดกลับมาโดดเด่นมีชีวิตชีวาเหมือนเดิม
มัสยิดเนียะมาตุ้ลอิสลาม ตั้งอยู่บริเวณมักกะสัน ติดกับโรงแรมบางกอกพาเลซ เป็นมัสยิดที่มีความโดดเด่น ที่มองจากบนทางด่วนจะเห็นโดมมัสยิดสแตนเลสที่สะท้อนแสงแวววับ เป็นมัสยิดที่ได้รับบริจาคที่ดินจากต่างศาสนิก’จุลินทร์ ล่ำซำ’ อดีตบอสใหญ่ของธนาคารกสิกรไทยแห่งอดีต
แต่เดิมบริเวณมักกะสัน เป็นชุมชนมุสลิมที่อาศัยเช่าที่ดินของตระกูลล่ำซำ และขอที่ดินจำนวนหนึ่งจาก คุณจุลินทร์ ล่ำซำ ก่อตั้ง มัสยิดเนียะมาตุ้ลอิสลาม จดทะเบียนเมื่อปี 2501 หรือกว่า 60 ปีก่อน จากอาคารไม้ ได้ปรับปรุงเป็นอาคารปูนที่มั่นคง เมื่อกว่า 20 ปีที่แล้ว ต่อมาที่ดินเกือบ 20 ไร่ ที่ชุมชนมุสลิมเช่าอาศัยนับพันคนถูกโอนให้เป็นกรรมสิทธิ์ของมูลนิธิเทียนฟ้า เมื่อปี2517 แต่พื้นทีๆได้รับการบริจาคก่อสร้างมัสยิดไม่ได้มีการแบ่งแยก อยู่ในชื่อมูลนิธิเทียนฟ้า เมื่อมูลนิธิมีนโยบายที่จะพัฒนาที่ดิน จึงได้ให้ชุมชุมมุสลิมทั้งหมดออกจากที่ดิน เมื่อประมาณ 2 ปีก่อน มุสลิมนับพันคนจึงได้อพยพออกจากที่ดิน เนียะมาตุ้ลอิสลามจึงกลายเป็นมัสยิดที่ไม่มีสัปบุรุษ และชุมชนมักกะสันที่เป็นที่อาศัยของมุสลิมดั้งเดิม ตั้งชื่อตามที่อยู่ที่อินโดนีเชีย จึงไม่มีมุสลิมอีกต่อไป
แม้ไม่มีสัปบุรุษ รอบบริเวณมัสยิดแต่ในวันเปิดยุมอะห์ มัสยิดมักกะสัน เป็นไปด้วยความคึกคัก มีพี่น้องมุสลิมจากทุกมัรฮับมาร่วมละหมาด รวมทั้งตัวแทนจากรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นไปตามแนวทางของ อิหม่ามประจำมัสยิด สมชายน แพจิตต์ ที่เน้นย้ำเรื่องความรักความสามัคคีของมุสลิม ในการอ่านคุตบะห์
อิหม่ามสมชาย ได้อ้างกุรอ่านและฮาดิษ มาเน้นย้ำเรื่องความแตกแยกของสังคมมุสลิม เป็นเหตุผลให้สังคมมุสลิมตกต่ำในปัจจุบัน ซึ่งสวนทางกับคำสอนของอิสลิมที่ให้ประชาชาติมุสลิม มีความรักและเอื้ออาทรระหว่างกัน (ดูคลิป)