ปธ.สภาฯ เผย ส.พระปกเกล้า เสนอ 2 รูปแบบตั้ง คกก.ปรองดองฯ ผู้แทน 7 ฝ่าย-คนกลาง เร่งทาบอดีตนายก-ปธ.รัฐสภา สั่งประสานม็อบร่วม ชี้ประเด็นถกขึ้นอยู่กับมติ เผยเปิดประชุมสภาฯ แก้ รธน.สัญญาณดี วางแนวทางไม่แตะสถาบันฯ
วันที่ 2 พ.ย.63 นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงภายหลังการหารือเพื่อออกแบบโครงสร้างและวิธีการทำงานของคณะกรรมการปรองดองสมานฉันท์ กับ นายวุฒิสาร ตันไชย เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า โดยระบุว่า สถาบันได้มีการเสนอ 2 รูปแบบ คือ 1 เป็นไปตามที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หน.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เสนอ คือมีผู้แทนจากฝ่ายต่างๆ 7 ฝ่าย เช่น ส.ส. ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน ตัวแทนรัฐบาล ตัวแทนวุฒิสภา และ องค์กรอื่น แต่ก็มีจุด่อน คือ หากฝ่ายใดปฏิเสธไม่ร่วม องค์ประชุมก็จะไม่ครบ หรือ หารือพูดคุยไม่นานก็อาจเสร็จเร็ว หรือจะล่มได้ รวมทั้งถ้ามองผิวเผินจะมีแค่ฝ่ายรัฐบาลกับวุฒิสภาซึ่งเป็นเสียงส่วนใหญ่ก็ถือว่าน่ากังวล
รูปแบบที่ 2 มีคนกลางที่มาจากการเสนอของฝ่ายต่างๆ หรือ ประธานรัฐสภาเป็นผู้สรรหา หรือ แต่งตั้งคณะกรรมการ ซึ่งยังไม่แน่ใจว่ากรรมการที่ไปทาบทามจะรับหรือไม่ เพราะเขาก็ต้องดูว่าปัญหาที่จะเข้ามาทำคืออะไร อย่างไรก็ตามจะไปประสานกับฝ่ายต่างๆ ตามรูปแบบที่ 1 ถ้าเป็นไปไม่ได้ก็จะมาในรูปแบบที่ 2 หรือ ดึงรูปแบบที่ 1 กับ 2 มาประสานกันในส่วนของตัวบุคคล โดยอาจต้องไปถามตัวแทนของฝ่ายต่างๆ ว่าจะเข้าร่วมหรือไม่ ในวันพรุ่งนี้เป็นไปได้ตนก็จะไปพูดคุยกับผู้นำฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาลเป็นการภายใน
นายชวน ยังกล่าวด้วยว่า ส่วนตัวได้ประสานกับอดีตนายกรัฐมนตรี 3 คน อดีตประธานรัฐสภา ซึ่งต่างก็ห่วงบ้านเมือง พร้อมจะให้ความเห็น หรือ ถ้ามีโอกาสก็จะมาร่วม รวมถึงพูดคุยกับบุคคลต่างๆ เพื่อดูว่าใครสนใจในเรื่องนี้บ้าง ซึ่งยังไม่ได้กำหนดเวลาว่าคณะกรรมการฯ จะต้องเกิดขึ้นเมื่อใด เพราะต้องใช้เวลาในการประสานแต่ละคน ส่วนตัวแทนของผู้ชุมนุมถ้าเข้าร่วมด้วยก็จะเป็นประโยชน์มาก จึงได้ให้ทางเลขาฯ สถาบันพระปกเกล้าไปประสาน ไม่อยากให้สื่อตั้งเงื่อนไขว่าผู้ชุมุนมจะเข้าร่วมหรือไม่ เอาเป็นว่าเราเป็นฝ่ายยื่นมือเข้าไปเชิญชวนให้เขามาร่วมแก้ไขปัญหาส่วนรวม และไม่อยากให้ไปตั้งเป้าหมายว่ามันไม่มีประโยชน์ หรือไม่สำเร็จ ทุกอย่างมันเริ่มต้นจากการที่คนส่วนใหญ่ในประเทศอยากเห็นบ้านเมืองสงบ วิธีไหนทำให้บ้านเมืองสงบได้เราก็จะพยายาม ซึ่งในการหารือพูดคุยกันเฉพาะเรื่องของโครงสร้างคณะกรรมการฯ ไม่ได้มีการพูดคุยถึงข้อเรียกร้องต่างๆ รวมถึงข้อเรียกร้อง 3 ข้อของผู้ชุมนุม หรือที่ทางพรรคก้าวไกลระบุว่าต้องมีการคุยในประเด็นปฏิรูปสถาบันฯ จึงจะเข้าร่วมเพราะเห็นว่าใครจะตั้งธงอย่างไรก็ได้ แต่ขึ้นอยู่กับมติของคณะกรรมการว่าจะหารือพูดคุยในเรื่องอะไรบ้าง
นายชวนยังกล่าวด้วยว่า การเปิดสภาสมัยวิสามัญว่าเพื่อลดความกังวลของประชาชน ซึ่งข้อเรียกร้องเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประธานวุฒิสภาได้มามีส่วนร่วมโดยมองว่าเมื่อมีสัญญาณจากนายกรัฐมนตรีในการประชุมครั้งล่าสุด ถือเป็นครั้งแรกที่นายกฯให้การสนับสนุนซึ่งก็ถือเป็นสัญญาณแรกที่จะลดความรู้สึกของผู้ที่อยากจะแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ และมีแนวโน้มว่าจะมีการแก้ ส่วนการอภิปรายที่จะมีขึ้นนั้นได้วางแนวว่าไม่อยากให้นำเรื่องสถาบันฯ ขึ้นมาเป็นเงื่อนไขโดยถือหลักตามรัฐธรรมนูญว่าพระมหากษัตริย์ทรงเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะล่วงละเมิดมิได้ ฉะนั้น เราพยายามจะหลีกเลี่ยงไม่ให้เป็นเงื่อนไขที่ 2 ฝ่ายทะเลาะหรือเผชิญหน้ากัน
ส่วนเรื่องการชุมนุม แม้เป็นภารกิจที่รัฐบาลดูแลอยู่ แต่ถ้ามีส่วนใดที่สภาสามารถช่วยบรรเทาปัญหาได้บ้างก็ยินดี ซึ่งได้มอบภารกิจให้เลขาสถาบันพระปกเกล้าที่มีหน่วยงาน มีบุคลากรเรื่องความปรองดองก็ให้มาร่วมในการทำงานด้วยโดยไม่ได้กำหนดเรื่องระยะเวลาแต่คิดว่าวิธีการที่เราพยายามแก้ปัญหาส่วนรวมก็คือพยายามคุยกันอย่างน้อยที่สุดก็จะลดความขัดแย้ง รุนแรง คุกคาม